Browse By

ทำความรู้จักกฎกติกา Formula 1 แบบเข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่

ทำความรู้จักกฎกติกา Formula 1 แบบเข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่ คือจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับใครที่อยากเข้าสู่โลกความเร็วระดับสูงสุดของมอเตอร์สปอร์ต หลายคนอาจมองว่า F1 เป็นกีฬาที่ซับซ้อน เต็มไปด้วยศัพท์เฉพาะ และเทคนิคที่ดูเข้าใจยาก แต่จริง ๆ แล้ว หากค่อย ๆ ทำความเข้าใจ คุณจะพบว่ากฎเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อความยุติธรรม ความปลอดภัย และความตื่นเต้นของการแข่งขัน 🏎️

และถ้าคุณเป็นแฟนกีฬาที่อยากติดตามข้อมูลหรือร่วมสนุกไปพร้อมกัน ก็สามารถเริ่มต้นได้จาก สมัคร ufabet เว็บตรง เล่นง่าย ปลอดภัย ที่ให้คุณเข้าถึงข้อมูลกีฬาและบริการอื่น ๆ ได้ครบจบในที่เดียว


1. โครงสร้างการแข่งขัน Formula 1

F1 จัดเป็นฤดูกาล (Season) ซึ่งประกอบด้วยการแข่งขันหลายสนามที่เรียกว่า Grands Prix (กรังด์ปรีซ์) แต่ละสนามจะมีลักษณะเฉพาะ ทั้งความยาวของสนาม ลักษณะโค้ง และพื้นผิวถนน ปัจจุบันมีการแข่งทั้งในสนามปิด (Circuit) และถนนในเมือง (Street Circuit) เช่น Monaco Grand Prix

ในหนึ่งฤดูกาล นักขับและทีมจะเก็บคะแนนจากแต่ละสนามเพื่อลุ้น 2 รางวัลใหญ่ ได้แก่

  • World Drivers’ Championship: แชมป์โลกนักขับ
  • World Constructors’ Championship: แชมป์โลกทีมผู้สร้าง

2. การแบ่งรอบในสัปดาห์การแข่งขัน

สัปดาห์แข่ง F1 ไม่ได้มีแค่วันอาทิตย์ แต่จะแบ่งเป็น 3 วันหลัก ๆ ดังนี้:

  • วันศุกร์: รอบฝึกซ้อม (Free Practice – FP1, FP2) ให้ทีมและนักขับทดสอบรถและเก็บข้อมูล
  • วันเสาร์: รอบฝึกซ้อม FP3 และรอบควอลิฟาย (Qualifying) เพื่อหาลำดับการสตาร์ท
  • วันอาทิตย์: วันแข่งขันจริง (Race Day) ที่ตัดสินคะแนน

บางสนามอาจใช้รูปแบบ Sprint Race ซึ่งเพิ่มการแข่งขันสั้น ๆ ในวันเสาร์ เพื่อให้แฟน ๆ ได้ลุ้นเพิ่ม


3. ระบบการให้คะแนน

ปัจจุบัน คะแนนจะมอบให้กับนักขับ 10 อันดับแรกของแต่ละสนาม ดังนี้:

  1. อันดับ 1 – 25 คะแนน
  2. อันดับ 2 – 18 คะแนน
  3. อันดับ 3 – 15 คะแนน
  4. อันดับ 4 – 12 คะแนน
  5. อันดับ 5 – 10 คะแนน
  6. อันดับ 6 – 8 คะแนน
  7. อันดับ 7 – 6 คะแนน
  8. อันดับ 8 – 4 คะแนน
  9. อันดับ 9 – 2 คะแนน
  10. อันดับ 10 – 1 คะแนน

นอกจากนี้ ยังมี 1 คะแนนโบนัส สำหรับผู้ทำรอบเร็วที่สุด (Fastest Lap) ในการแข่งจริง หากอยู่ใน Top 10


4. การออกสตาร์ทและธงสัญญาณ

การแข่งขันเริ่มด้วย Standing Start โดยนักขับจะจอดตามลำดับบนกริดสตาร์ท จากนั้นจะมีไฟสัญญาณ 5 ดวงขึ้นพร้อมกัน และดับลงเพื่อเริ่มการแข่งขัน

ธงสัญญาณมีความสำคัญมาก เช่น:

  • ธงเขียว: สนามปลอดภัย สามารถแข่งขันได้เต็มที่
  • ธงเหลือง: มีเหตุการณ์บนสนาม ต้องชะลอความเร็ว ห้ามแซง
  • ธงแดง: หยุดการแข่งขันชั่วคราว
  • ธงหมากรุก: สิ้นสุดการแข่งขัน

5. Pit Stop และกลยุทธ์ยาง

Pit Stop คือการเข้าพื้นที่ทีมเพื่อเปลี่ยนยาง ซ่อมแซมรถ หรือปรับแต่งตั้งค่า แต่ละทีมต้องวางกลยุทธ์ให้ดี เพราะการเข้าพิทใช้เวลาหลายวินาที และอาจส่งผลต่ออันดับในสนาม

ประเภทของยาง (Tyre Compound) มีตั้งแต่ยางนิ่ม (Soft) ที่เกาะถนนดีแต่สึกเร็ว ไปจนถึงยางแข็ง (Hard) ที่ทนทานกว่าแต่ความเกาะถนนน้อยกว่า ทีมต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพสนามและสภาพอากาศ


6. ความปลอดภัยใน F1

ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งใน F1 ปัจจุบันมีระบบ Halo ที่ช่วยป้องกันศีรษะนักขับ, ชุดแข่งที่ทนไฟ, หมวกกันน็อกคาร์บอนไฟเบอร์ และมาตรการสนามที่เข้มงวดเพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ


7. กติกาการแซงและการป้องกัน

นักขับสามารถแซงได้หากมีความเร็วและตำแหน่งที่เหนือกว่า โดยใช้โซน DRS (Drag Reduction System) เพื่อลดแรงต้านอากาศ แต่ห้ามเปลี่ยนเลนอย่างอันตรายหรือบีบคู่แข่งออกนอกสนาม


8. โทษและบทลงโทษ

หากนักขับทำผิดกติกา อาจได้รับโทษเช่น:

  • Time Penalty: เพิ่มเวลาแข่ง เช่น 5 หรือ 10 วินาที
  • Drive-through Penalty: ขับผ่าน Pit Lane โดยไม่หยุด
  • Stop-and-Go Penalty: เข้าพิทแล้วหยุด 10 วินาที ก่อนกลับไปแข่ง

9. กติกาด้านงบประมาณ (Budget Cap)

ตั้งแต่ปี 2021 F1 มีการจำกัดงบประมาณทีม เพื่อให้การแข่งขันสูสีกันมากขึ้น ปัจจุบันทีมมีงบประมาณสูงสุดที่ใช้พัฒนารถและจัดการแข่งต่อปีประมาณ 135 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


10. สรุปสำหรับมือใหม่

กฎกติกา F1 อาจดูเยอะ แต่เมื่อเข้าใจแล้ว คุณจะสนุกกับการดูแข่งมากขึ้น การรู้เรื่องรอบฝึกซ้อม, รอบควอลิฟาย, กลยุทธ์ยาง และการให้คะแนน จะช่วยให้คุณติดตามการแข่งได้อย่างเต็มอรรถรส

และถ้าคุณอยากติดตามผล F1 พร้อมลุ้นไปกับกีฬาประเภทอื่น ๆ ได้ตลอด ก็สามารถใช้ ufabet แทงบอลสเต็ป ค่าน้ำสูง เพื่อเพิ่มความมันส์ระหว่างดูแข่ง หรือถ้าต้องการทางเข้าอัปเดตล่าสุดเสมอ ก็มี ทางเข้า ufabet ล่าสุด อัปเดตทุกวัน ให้คุณเข้าถึงได้ทุกเวลา